หลวงย่าภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์ เล่าถึงประสบการณ์ที่ทำให้ท่านหันเหมาเป็นนักมังสะวิรัตว่า ท่านเริ่มไปปฏิบัติธรรมและฟังธรรมที่วัดบวรนิเวศน์วรวิหาร ตรงบางลำพู เมื่อพระเทศน์จบก็มีการกรวดน้ำ "สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมด ทั้งสิ้น อเวราโหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย….." เสร็จแล้วก็ออกมารับประทานอาหารที่ตลาดบางลำพู เพื่อนก็สั่งข้าวหมกไก่ และรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่ท่านเองก็รู้สึกคับข้องไม่สบายใจ เพราะเสียงที่แผ่ส่วนกุศลให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเมื่อชั่วโมงก่อนยังก้องอยู่ในหู ทำใจไม่ได้ รู้สึกว่าปากว่าอย่าง แต่ในภาคปฏิบัติทำอีกอย่างหนึ่ง ใน พ.ศ. ๒๔๙๙ เมื่อท่านบวช (ที่วัดบวรนั่นแหละ) ท่านจึงเริ่มวิรัตตัวเอง ไม่กินเนื้อสัตว์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ท่านเขียนกลอนไว้ว่า
                             
           การไม่กินเนื้อสัตว์จตุบาท
                                    เลิกเป็นทาสติดรสหมดหม่นหมอง
                                    ไม่ติดเลือดติดเนื้อเชื้อลำพอง
                                    กิเลสร้ายไป่ดองในสันดาน
                                    ถึงคราวแผ่เมตตาประสาซื่อ
                                    ผู้รับนับถือสันติศานติ์
                                    ก็แซ่สร้องเป็นมิตรสนิทนาน
                                    โลกชื่นบานปากกับใจไปด้วยกัน


          ที่วัตรทรงธรรมกัลยาณีจึงถือตามหลักการณ์ของหลวงย่า ที่จะไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๙ ในขั้นตอนสุดท้ายของการบวชนั้น จะมีพิธีรับศีลโพธิสัตต์ ซึ่งในศีลโพธิสัตต์ฝ่ายบรรพชิตนั้นจะมีข้อห้ามไม่ให้รับประทานอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์ มันสัตว์ ท่านก็ไม่มีปัญหาเพราะถือมังสะวิรัตอยู่แล้ว
          เรื่องการเลิกกินเนื้อสัตว์นี้ บางคนทำได้มาแต่เกิด อาตมารู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง ได้เห็นเขามาตั้งแต่ในวัยเด็กที่ยังพูดไม่รู้เรื่อง อาหารที่มีชื้นเนื้อสัตว์เขาจะจับโยนทิ้งหมด เขาเติบโตมาในบ้านที่กินเนื้อสัตว์ แต่เขาก็อยู่ได้โดยการหุงหากินเองตามลำพัง เช่นนี้เรียกว่าคงตั้งจิตอธิษฐานมาตั้งแต่อดีตชาติ บางคนเลิกกินด้วยเหตุผลทางสุขภาพ บางคนเลิกกินเพราะความเชื่อทางศาสนา เช่น บางคนนับถือเจ้าแม่กวนอิมก็จะเลิกกินเนื้อวัวเด็ดขาด บางคนถือมังสะวิรัตในวันตัว คือหากเกิดวันจันทร์ ก็จะถือมังสะวิรัตในวันจันทร์ เป็นต้น
         ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ก็ขอโมทนาด้วยทั้งสิ้น แต่ในภาคปฏิบัติอยู่ ๆ จะ ให้เลิกกินเนื้อสัตว์เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะกิเลสที่สะสมมานาน กิเลสที่ปลายลิ้นนั้นเอง
         คนที่ตั้งใจจะงดเว้นเนื้อสัตว์ต้องเจริญเมตตากรุณาให้มาก รักชีวิตของตัวเองให้มาก แล้วเผื่อแผ่ความรู้สึกนั้นไปให้ชีวิตอื่นด้วย ถ้าทำจริงๆ ก็จะสามารถเผื่อแผ่ความรู้สึกนั้นให้ชีวิตอื่นด้วยเป็นผลสำเร็จ
         อาตมาพาบรรดาลูกศิษย์บังเกิดเกล้าเดินทางไปไหว้พระที่อินเดีย สั่งบรรดาลูกศิษย์ที่ตามไปว่า ควรเป็นมังสะวิรัตในช่วงการเดินทางในอินเดีย ลูกศิษย์ก็ยังไม่กระจ่างชัดว่าทำไมอาตมาจึงพยายามยัดเยียดเรื่องนี้ ครั้งหนึ่งที่เราพักรับประทานอาหารที่ร้านริมทาง ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งสั่งแกงไก่ สิบนาทีต่อมาเด็กในร้านก็ซ้อนมอเตอร์ไซด์เข้ามา หิ้วไก่เป็นๆ ห้อยหัวเข้ามาข้างละสองตัว ไก่ดิ้นรน ส่งเสียงร้อง ทั้งพยายามกระพือปีก พอไก่หลุดจากมือ ก็วิ่งไล่จับไก่กันเป็นพัลวัน จึงถึงบางอ้อว่า การกินเนื้อสัตว์ในอินเดียนั้น ทันทีที่เราสั่ง เขาก็เชือดตามคำสั่งของเรา ปรากฏว่า ไม่มีใครใจอำมหิตพอ เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างความอยากกินแกงไก่ กับการที่จะต้องเห็นเขาเชือดไก่ตามคำสั่งของเราต่อหน้าต่อตา มโนธรรมก็ชนะ รีบวิ่งไปลำล่ำละลักยกเลิกแกงไก่ สาธุ…
          อีกคนหนึ่ง ตั้งใจไปตั้งแต่กรุงเทพฯ เลยว่า ไปอินเดียเที่ยวนี้ จะไปกิน mutton masala คือแกงเนื้อแพะ ก็ไม่เป็นอย่างไร ทุกจุดที่เราแวะ เริ่มต้นจากการกินน้ำทับทิมคั้นริมทาง ก็จะมีแพะแม่ลูก ๔-๕ ตัว มาเก็บเปลือกทับทิมกิน มันก็ร้อง แบ๊ะ แบ๊ะ เราก็ได้สัมผัสความรักความผูกพันของแม่แพะลูกแพะที่เห็นได้ด้วยตา สัมผัสด้วยหู ความรู้สึกอยากกินแกงแพะเริ่มสั่นคลอน
         แต่ก็ยังไม่เลิกรา วันต่อมา ข้ามฝั่งแม่น้ำเนรัญชราไปบ้านนางสุชาดา คราวนี้เห็นแพะหลายครอบครัวมาก ลูกแพะที่เกิดใหม่ๆ คุกเข่าดูดนมแม่น่ารักจริงๆ พวกเรารีบคว้ากล้องมาถ่ายรูปกันใหญ่ มันไม่ใช่เพียงรูปแพะ แต่เราได้สัมผัสในสายใยชีวิตระหว่างแม่กับลูก ลูกเขาเขาก็รัก แม่เขาๆก็รัก แล้วเราก็ยังจ้องจะกินเนื้อแพะ เราทำลายสายใยชีวิตของแม่ลูกเรา ทำได้ลงคอเชียวหรือ ท้ายที่สุด ก็ สาธุ ลูกทัวร์คนนี้ ก็ไม่ได้กินแกงแพะ
        หัดคิด หัดพิจารณา เห็นคุณค่าของชีวิตเขาเช่นนี้บ่อยๆ ถ้ายังเลิกกินเนื้อสัตว์ไม่ได้ ก็เกินไปแล้วคุณโยม

บนเส้นทางสู่มังสะวิรัต สู่โพธิสัตต์มรรค ไปจี้ธูปที่ไต้หวัน เลี้ยงอาหาร ๒๐๐๐ คน



สถานที่ติดต่อ
  วัตรทรงธรรมกัลยาณี
เลขที่  195  ถนนเพชรเกษม  ต. พระประโทน
อ. เมืองฯ  จ. นครปฐม   73000
โทร. (034) 258-270  โทรสาร (034) 284-315
ติชม  [email protected]