..............ครู
มาจากคำว่า คุรุ แปลว่าหนัก ภาระที่ครูจะต้องนำลูกศิษย์ไปให้พ้นปากเยี่ยวปากกา
ภาระที่ครูจะต้องนำลูกศิษย์ให้บรรลุ มรรค ผลนิพพานไม่ใช่เรื่องเล่น
ๆเป็นภาระที่หนัก อาตมาจะเล่าให้ฟังในทางธิเบตนั้น
ความหมายของครูหมายความว่าอย่างไร ทางธิเบตถือว่าถ้าไม่มีครูเราก็จะไม่สามารถเข้าถึงพระธรรมอันประเสริฐได้นั้นคือพระไตรรัตน์
เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะนึกถึงพระไตรรัตน์ ก่อนที่จะกล่าวคำอาราธนาขอไตรสรณคมน์เป็นที่ระลึกถึง
ชาวธิเบตจะกราบครูบาอาจารย์เสียก่อน ขอยึดถือครูบาอาจารย์เป็นที่พึ่งที่ระลึกก่อน
เพราะถ้าไม่มีครูที่ดีแล้วก็จะไม่มีคนสั่งสอนอบรมความหมายสาระของไตรสรณคมน์
เวลาที่เขาทำพิธีรับศิษย์อาจารย์นั้นเขาจะไม่ทำพร่ำเพรื่อ
เขาไม่รับลูกศิษย์นับร้อยนับพัน แต่ถ้าอาจารย์ท่านใดรับลูกศิษย์แล้ว
ลูกศิษย์จะต้องไปแสวงอาจารย์เมื่อเฝ้ามองแน่ใจแล้ว
ว่าอาจารย์ผู้นี้เราจะขอเป็นครูของเรา หมายถึงว่าเขาจะต้องมีความผูกพันธ์กับชีวิตของเราไม่ใช่ว่าจนสิ้นชีวิตชาตินี้
แต่ไปจนบรรลุมรรคผลนิพพาน จะเห็นความสัมพันธ์อันงดงามระหว่างครูกับศิษย์
เมื่อครูตายครูก็จะไปบอกศิษย์แม้จะอยู่คนละภพกันแล้ว
ก็ยังติดตามดูแลลูกศิษย์ เพราะว่าท่านมีความรับผิดชอบต่อลูกศิษย์เพื่อจะประคับประคองให้ไปถึงฝั่งพระนิพพาน
อาตมาคิดว่า เรื่องตาที่สาม2 เป็นเรื่องที่ให้ภาพความสัมพันธ์ศิษย์กับอาจารย์ได้ดีที่สุดเล่มหนึ่ง
ถ้าใครสนใจก็ลองหาอ่านเอา เมื่อเป็นอย่างนั้นการรับเป็นศิษย์เป็นอาจารย์กันนั้นต้องทุ่มเท
เคี่ยวเข็ญให้ลูกศิษย์ได้รู้ธรรมอันสูงสุด บางครั้งอาจารย์จะเก่งอีกทางหนึ่ง
แต่ไม่เก่งอีกทางหนึ่ง แต่เห็นว่าศาสตร์แขนงนี้จะช่วยลูกศิษย์ได้
สมมุติว่าอาจารย์ ก.ได้รับนาย ข. เป็นลูกศิษย์
และนาย ข. ก็ถือว่า นาย ก. เป็นรูทซ์คูรุ เป็นครูดั้งเดิมครูองค์ประถม
เมื่อพิจารณาดูแล้วว่านาย ข.ควรจะมีความรู้เรื่องนี้
ๆ ซึ่งตัวอาจารย์เองไม่มี อาจารย์ก็จะทำหน้าที่ติดต่อให้ขอให้ลูกศิษย์ไปอยู่กับอาจารย์ท่านโน้นที่มีความรู้ในเรื่องนั้น
ๆ เป็นพิเศษอย่างนี้ก็แสดงว่าอาจารย์ของธิเบตวัชรยานไม่มีพวกไม่แบ่งเขาแบ่งเราไม่เป็นอาจารย์ของคนใดคนหนึ่ง
..............เมื่อเราระลึกถึงครูใกล้ตัวที่สุดของเราก็คือ
แม่ สูงสุดของเราก็คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นบรมครู
ทำไมจึงยกให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นบรมครู
เพราะว่าความจริงที่ท่านค้นพบนั้นเป็นความจริงอันประเสริฐ
ที่จะช่วยเหลือเราสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ก้าวล่วงความทุกข์ไปได้นี่ก็คือครูคนสำคัญของเรา
ที่เราจะต้องมีเป้าหมายดำเนินตามรอยพระบาทของท่าน
..............ลูกศิษย์ที่ดีต้องกรำกับการเคี่ยวเข็ญของครู
ๆ ที่ดีก็ต้องมีอุตสาหะ วิริยะการที่จะเคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ให้ได้ศักยภาพอย่างเต็มที่
คุณโยมลองพิจารณาตัวเองว่าคุณโยมเป็นครูที่ดีหรือเปล่า
คุณโยมเป็นศิษย์ที่ดีหรือเปล่า เอาสองอย่างนี้เข้ามาพิจารณา
แล้วเราจะค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาด้วยกัน นำไปสู่ชีวิตที่ประเสริฐ
ทั้งศิษย์ และ ครู เมื่อถึงจุดนั้น ศิษย์ก็เป็นครู
ๆ ก็เป็นศิษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับครูก็เปรียบเหมือนสายรุ้งเช่นกัน
หากเราเป็นครูเราก็ต้องเป็นครูที่ดี หากเราเป็นศิษย์เราก็ต้องเป็นศิษย์ที่ดี