วงการสงฆ์ไทยลุกฮือ
ต่อต้าน การบวชภิกษุณี
มันเป็นเพียงหัวข่าวเล็ก
ๆ หน้าหลัง ๆ
ของหนังสือพิมพ์อินเดีย
ที่พอจะหยุดสายตาฉันให้อ่านรายละเอียดของข่าวได้อย่างตั้งอกตั้งใจ
ในเนื้อข่าวเขียนไว้ว่าดร.ฉัตรสุมาลย์
กบิลสิงห์
ได้บวชสามเณรีเพื่อจะเตรียมเป็นภิกษุณีต่อไป
ท่ามกลางกระแสการต่อต้านอย่างหนักหน่วงของพระสงฆ์ไทย
แต่ดร.ฉัตรสุมาลย์ก็ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันเจตนาอันแน่วแน่ว่าเป็นการแสดงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของผู้หญิงที่พึงกระทำได้ตามสิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาติไว้แต่ครั้งพุทธกาล
อืมม....นี่สิ
ผู้หญิง !!!!!
ฉันตบเข่าฉาด
คิดคำพูดอธิบายความรู้สึกได้แค่นั้นจริง
ๆ แต่มันมากกว่านั้น
ข่าวนี้ยังติดอยู่ในความทรงจำของฉันมาตลอด
จนเมื่อมีโอกาสได้พบตัวจริงของ
อาจารย์ดร.ฉัตรสุมาลย์
กบิลสิงห์ หรือ
ปัจจุบันคือ ธัมมนันทา
สามเณรี (ที่ใครต่อใครเรียกท่านว่าหลวงแม่)
ที่ซีพี ทาวเวอร์
ได้บรรยายถึงพุทธศาสนากับผู้หญิง
ท่านพูดถึงพระอรหันต์เถรี
สิทธิของผู้หญิงในการบวชในพระพุทธศาสนา
เหล่านี้ล้วนกระตุ้นต่อมอยากรู้ของฉัน
จนทำให้ฉันตัดสินใจว่า
จะต้องเข้าร่วมกิจกรรมอบรมพุทธสาวิการะยะสั้น4
วันกับท่านให้ได้
และนี่เป็นเรื่องที่ฉันประทับใจกับการอบรมพุทธสาวิกา
รุ่นที่ 33
ศุกร์ที่
9 สิงหาคม 2545
บ่ายคล้อยแล้วที่พวกเราเริ่มออกเดินทาง
ดูทุกคนตื่นเต้นเหมือนกับไปออกค่าย
เพราะเป็นความรู้สึกแปลกใหม่
เรากำลังจะไปวัดพระผู้หญิง
!!! เฟมินิสต์ น่าดูเลย เห็นมั้ยว่าล่ะผู้หญิงน่ะทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง
วันนี้เป็นวันแรกที่มาถึง
พวกเราเอาข้าวของเก็บเข้าห้องพักเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขาว
แล้วก็มาลงทะเบียน
แล้วก็เริ่มกิจกรรมแรกที่เราได้ช่วยกันทำในการเข้าอบรมพุทธสาวิกา
แบกปูนปิดฝาท่อ
!!
ไม่ผิดหรอก
หลวงแม่ก็ทำ
แล้วพวกเราจะอยู่เฉยได้ยังไง
ทำไปหลวงแม่ก็สอนไปว่านี่ล่ะแรงงานผู้หญิง
หลวงแม่หล่อฝาท่อเอง
เอาเศษกระเบื้องที่เหลือจากทำอะไรต่ออะไรแล้วมาหล่อทำเป็นโต๊ะให้พวกเรานั่งที่สนามนั่นไง
โอ้โฮ !
แรงงานผู้หญิงนี่ไม่ใช่ย่อยนะ
ได้โต๊ะสนามที่มีดีไซน์ไม่เหมือนใครด้วย
น่าภูมิใจอีกต่างหาก
ตกค่ำก็สวดมนต์เย็น
นั่งสมาธิ
ไม่เหมือนสวดมนต์เลยเพราะว่าไพเราะมาก
ทั้งทำนองและการออกเสียง
ฉันยังสวดไม่คล่องหรอกแต่ยังมีเวลาอีก
3 วัน
ฉันยังนึกถึงบทสวดมนต์เพราะ
ๆ อยู่ในความคิด
พรุ่งนี้ต้องตื่นขึ้นมาสวดมนต์เช้าตอน
5.30 น. ต้องนอนแต่หัวค่ำ ไม่งั้นคงตื่นไม่ทันแน่
เสาร์ที่ 10
สิงหาคม 2545
ฉันตื่นตั้งแต่ตี
3 ก็ว่าได้
เพราะจิตคอยกังวลว่าจะตื่นไม่ทันสวดมนต์เช้า
นอนพลิกไปพลิกมาอยู่ครู่ใหญ่
ๆ
จนเริ่มมีชาวคณะตื่นบ้างแล้ว
ฉันก็เริ่มลุกบ้างและก็เตรียมตัวกับกิจวัตรประจำวัน
เพื่อพร้อมสวดมนต์เช้าและนั่งสมาธิ
วันนี้พวกเราทุกคนบวชและรับศีล
8 พุทธสาวิการุ่นที่ 33
เรามีกว่า 20 กว่าคน
ทุกคนมีจุดประสงค์ในการเข้าอบรมต่างกันไป
แต่จุดมุ่งหมายที่ร่วมกันคือ
ความศรัทธาในพุทธศาสนาและตระหนักในความเป็นผู้หญิงที่มีมากกว่าสังคมกำหนด
พวกเรารับศีลกันแล้ว
หลังอาหารเช้าหลวงแม่ก็นัดพวกเราทั้งหมดไปที่สวนสมใจนึก
ซึ่งอยู่ด้านหลังของวัด
มีสระขนาดเล็กอยู่ 2
สระรอบ ๆ
ปลูกต้นไม้พุ่มเล็ก ๆ
และต้นไม้ยืนต้นที่กำลังรอที่จะเติบโตเป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาอีกหลายต้น
มีเกาะกลางคลองที่มีสะพานทอดข้ามไปนั่งพักผ่อนที่ศาลาเล็ก
ๆ ได้|
สวนสมใจนึก เป็นชื่อที่หลวงย่าตั้งขึ้น
หลวงแม่เริ่มบริบทของการบรรยายให้กับพุทธสาวิกาที่ตามมาอย่างสงสัย
แล้วก็เริ่มเดินไปทางซ้ายมือ
ฉันเพิ่งสังเกตว่ามีป้ายที่เขียนเป็นชื่อพระอรหันต์ของพระพุทธเจ้าปักอยู่เรียงรายรอบสระ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร ฯลฯ
อีกหลายชื่อที่คุ้นเคยเมื่อสมัยยังเรียนวิชาพุทธศาสนาตั้งแต่ชั้นประถม
แล้วชื่อข้างล่างที่รองลงมาจากชื่อพระอรหันต์
แต่ละชื่อล่ะ ใครกัน
หลวงแม่คงจะเห็นได้ว่าแต่ละคนมีเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มหน้า
ปชาบดีโคตมี ธัมมทินนา
ปฎาจารา อุบลวัณณา กีสาโคตมี
ฯลฯ ชื่อเพราะเหลือเกิน
แต่มากไปกว่าความไพเราะของชื่อเหล่านี้
ก็คือ
เป็นนามของอรหันต์เถรี
ฉันได้ยินคำนี้ครั้งแรกก็จากหลวงแม่
จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ
ตั้งแต่ประถมแล้วครูบอกเลยว่า
จำไว้เลยว่าพระภิกษุณีในปัจจุบันไม่มีแล้ว
แล้วมาได้ยินคำว่าอรหันต์เถรี
ฉันยิ่งงงมากขึ้น
หลวงแม่เล่าถึงความเป็นมาของอรหันต์เถรีให้พวกเราฟัง
ทุกองค์ล้วนแต่พบกับความทุกข์ในชีวิต
ในแง่มุมที่แตกต่างกัน
บ้างก็เกิดจากความผิดหวังในคนรัก
บ้างก็เกิดจากความตาย
บ้างก็เกิดจากการพลัดพราก
ล้วนแล้วแต่เป็นทุกข์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ธรรมะจึงเป็นที่พึ่งเดียวที่ทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์นั้น
จนถึงขั้นบรรลุได้เป็นพระอรหันต์เถรี
ตรงนี้ชี้เห็นว่าพระพุทธเจ้าและธรรมะแห่งพระพุทธองค์นั้นเปิดกว้างเสมอ
ทรงเห็นว่าผู้หญิงมีสิทธิที่จะบวชเป็นภิกษุณี
เฉกเช่นกับผู้ชายที่จะบวชเป็นภิกษุอีกทั้งยังทรงเห็นว่าผู้หญิงก็มีสติปัญญาเท่าเทียมกับผู้ชายสามารถจะเข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนได้และบรรลุธรรมได้
พวกเราเดินฟังธรรมบรรยายของหลวงแม่จนครบรอบสระ
เราได้ยินชื่อใหม่
ๆในพุทธประวัติ
เราได้รู้ถึงความเป็นมาของเหล่าภิกษุณี
และพระอรหันต์เถรี
เราได้รู้ถึงวิธีที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ได้ด้วยธรรมะ
ฉันได้รู้ถึงสิทธิและเสรีภาพของผู้หญิงในพระพุทธศาสนา
หลังอาหารเพลแล้ว...
พวกเรามีตารางว่าจะต้องเข้ากิจกรรมกลุ่ม
นั่งสมาธิให้รู้ถึงการกำหนดลมหายใจ
แล้วก็มีกิจกรรมที่ผ่อนคลายเช่นแนะนำตัว
กิจกรรมกลุ่มย่อยที่มาพูดคุยกัน
กลุ่มฉันค่อย ๆ
พูดทีละคนเป็นการแบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน
ความคับข้องใจ
ความไม่สบายใจ
บางคนก็อ้ำอึ้งอยู่เป็นพักที่ต้องมาแสดงความรู้สึกลึก
ๆ
ให้กับคนไม่คุ้นเคยรับฟัง
บางคนก็ยินดีที่จะเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง
เล่าไปน้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมา
ฉันแอบเห็นบางคนก็พลอยร้องไห้ตามไปด้วยกับเรื่องเศร้าใจ
ทุกข์ใจของเพื่อนในกลุ่ม
ขณะที่กลุ่มข้าง ๆ
มีเสียงหัวเราะไม่ขาดสาย
หลายคนที่มาเป็นครั้งที่
2,3,4,5,.......32 ครั้งก็มี
เป็นพวกพี่ ๆ
ที่เข้ามาทำงานด้วยความศรัทธาในพุทธศาสนาและตัวหลวงแม่
เราจะเห็นได้ว่าทุกคนนั้นมีทุกข์เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจึงต้องใฝ่หาธรรมะเป็นเครื่องบำรุงใจ
วันนี้เราปิดกิจกรรมภาคบ่ายด้วยการฝึกชี่กง
เหงื่อโชกไปตาม ๆ
กันแต่ไม่ได้เหนื่อยเลย
ตกเย็นพวกเราทุกคนได้ออกกำลังกายกันอย่างสนุกสนานและเป็นประโยชน์
ช่วยกันตักสาหร่ายในสระที่พันกอบัวสวย
ๆ ออกทิ้ง
บางคนก็พายเรือตักกันกลางสระเป็นที่สนุกสนาน
เป็นงานที่สนุกและได้เหงื่อดีนัก
แต่กลับผ่อนคลายมาก ๆ
พักใหญ่ ๆ ก็เสร็จ
พักกินน้ำปานะ
และมีเวลาจัดการเรื่องส่วนตัวเล็กน้อย
สวดมนต์เย็น
ได้สวดมนต์เพราะ ๆ
อีกแล้ว ทำสมาธิ
ฉันยังไม่นอนแต่ไปดูวิดีทัศน์ที่ถ่ายไว้ตอนหลวงแม่ไปบวชที่ศรีลังกาด้วย
ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน
อาทิตย์ที่ 11
สิงหาคม 2545
วันนี้ฉันก็ยังตื่นเร็วกว่าที่กำหนด
หลับสบายมากขึ้นเพราะเริ่มจะชินสักหน่อยกับสถานที่
และเมื่อวานก็ได้ออกกำลังกายไปเยอะ
พวกเราขึ้นสวดมนต์เช้า
ฉันชอบบทสวดมนต์ของวัตรนี้
ในความรู้สึกของฉันช่างไพเราะมาก
อาจเป็นเพราะไม่เหมือนกับที่อื่น
ๆ
ที่เคยไปฝึกวิปัสสนามาก็ได้
แต่ฉันก็ยืนยันว่าเป็นบทสวดมนต์ที่น่าฟังอยู่ดี
หลังสวดมนต์พี่ ๆ
ประกาศว่าวันนี้หลวงแม่จะออกบิณฑบาต
ใครจะตามไปกับหลวงแม่ก็ได้
ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ฉันคิดว่าจะไปดีหรือเปล่า
แต่ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจตามหลวงแม่ไปเป็นเด็กวัด
มันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของฉันเลย
ตั้งแต่เด็กเวลาฉันเห็นเด็กวัดผู้ชายเดินตามพระ
ฉันคิดว่าทำไมไม่เห็นมีเด็กวัดผู้หญิงบ้างเลย
เวลารับดอกไม้หลังจากญาติโยมถวายพระแล้ว
ไม่เห็นเด็กผู้ชายพวกนั้นจะทะนุถนอมเลย
ดูเกเรด้วยซ้ำ
แล้วฉันอยากรู้ว่าคนแถวนี้เค้ามองหลวงแม่ของฉันอย่างไร
เอาล่ะ !!
วันนี้ฉันจะลองไปเป็นเด็กวัดตามหลวงแม่ไปบิณฑบาต
พอออกนอกประตูไปซักหน่อย
ก็พบว่ามีแถวของพระภิกษุเดินมาบิณฑบาตเช่นกัน
หลวงแม่หยุดให้ท่านได้เดินไปก่อนด้วยความนอบน้อม
ใจฉันเต้นตึกตัก ๆ
นึกถึงกรณีขัดแย้งที่เคยมีในเรื่องการไม่ยอมรับการบวชของหลวงแม่
แต่เราก็เดินตามหลวงแม่กันไปเรื่อย
ๆ
หลวงแม่หยุดรับบาตรเป็นระยะ
ๆ
พร้อมกับบอกให้ชาวบ้านเอาลูกหลานมาเรียนภาษาอังกฤษที่วัดตอนเย็น
ๆ
พวกเราชักแถวมายาวเหยียด
ขนาดคุณป้าคนหนึ่งเอ่ยปากถามหลวงแม่ว่าจะพอหรือคะลูกศิษย์ขนาดนี้
หลวงแม่ตอบเรียบ ๆ
ว่ามาเอาคนค่ะคุณโยม
ไม่ได้มาเอาของ
จะมาบอกว่าถ้ามีลูกหลานติดขัดเรื่องการบ้าน
หรือภาษาอังกฤษก็ให้ไปที่วัตร
ตอนสัก 5 โมงเย็น
มีหลายบ้านที่ออกมารอใส่บาตรให้หลวงแม่ด้วยความศรัทธา
ชาวบ้านเหล่านั้นไม่ได้มีแววขัดแย้งอะไรในดวงตาเลย
มีแต่ศรัทธาที่เปี่ยมล้นให้กับพระพุทธศาสนาและตัวของหลวงแม่
เป็นความศรัทธาที่ไม่มีเรื่องของการเมือง
ผลประโยชน์เจือปน
พวกเราเดินตามหลวงแม่กลับวัตร
อีกกลุ่มที่ไม่ได้ไปก็กำลังฝึกการกำหนดลมหายใจในเรื่องของการนั่งสมาธิ
เราพักกันสักครู่ก็ได้เวลาอาหารเช้า
วันนี้เรามีกิจกรรมที่จะต้องทำ
ดูหนัง เข้าท่านะ
อำแดงเหมือนกับนายริด
เราเถียงกันว่าอำแดงต้องเป็นพี่น้องกับนายริดแน่เลย
เพราะเหมือนกับนายริด
หรือว่าเป็นฝาแฝด?
ตามประสาคนช่างคิดของพวกเรา
เหนือกว่านั้นคือเรื่องของสิทธิสตรีที่ถูกยกขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง
หลังหนังจบมีการระดมสมอง
วิเคราะห์
เรื่องราวกันอย่างได้รสชาติ
เวลาผ่านไปร่วม 3
ชั่วโมงอย่างไม่รู้ตัว
ช่วงบ่ายหลวงแม่เทศน์ให้ฟังเรื่องของพระคุณแม่
หลายคนน้ำตาซึม ๆ
ฉันก็คิดถึงแม่เหมือกัน
ก็ที่มาปฎิบัติธรรมครั้งนี้ก็จะเอากุศลผลบุญให้แม่เป็นการทดแทนบุญคุณ
แม้ว่าจะทดแทนไม่รู้หมดก็ตาม
หลังจากนั้นก็มีกิจกรรมนั่งสมาธิ
หลวงแม่สอนให้รู้ถึงการกำหนดลมหายใจ
ฝึกชี่กง
อันนี้เป็นที่ติดอกติดใจของหลาย
ๆ คน
ช่วยกันทำความสะอาดบริเวณวัด
ช่วยกันเก็บกวาด
ฉันยังได้เห็นหลวงแม่ (หญิงเหล็ก)
สาธิตให้เห็นการหล่อปูนทำฝาท่อ
ทำโต๊สนาม ด้วย
หลังน้ำปานะ... ครู่ใหญ่ ๆ
ก็แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย
ฉันเลือกที่จะนั่งคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนสนิท
เราไม่มีเวลามานั่งคุยกันอย่างนี้นานแล้ว
หลังสวดมนต์เย็นเราจะมีกิจกรรมกลุ่มอีกครั้งก่อนเข้านอน
ได้สวดมนต์ที่ไพเราะอีกแล้ว
ฉันชอบมาก
พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการอบรมพุทธสาวิกาแล้ว
เร็วจังยังสนุกอยู่เลย
จันทร์ที่ 12
สิงหาคม 2545
วันนี้วันสุดท้ายของการอบรม
คิดแล้วก็ใจหาย
เดี๋ยวจะต้องกลับไปพบกับความสับสนวุ่นวายอีกแล้ว
พวกเราขึ้นสวดมนต์เช้าแต่ไม่มีการสึก
เพราะหลวงย่า ภิกษุณี วรมัย
กบิลสิงห์
อยากให้พวกเรารับศีลไปปฏิบัติให้ติดตัว
หลวงแม่ให้ศีลให้พร
พร้อมทั้งไม่ลืมที่จะให้สติแก่พุทธสาวิกาทุกคน
หลังจากรับอาหารเช้าแล้วต่างก็เตรียมตัวแยกย้ายเก็บของทำความสะอาดห้อง
เตรียมตัวกลับบ้านกัน
พวกเราร่ำลากันและกัน พี่
ๆ วิทยากร เพื่อน ๆ น้อง ๆ
ที่เข้าอบรม
พวกเราทุกคนต่างแยกย้ายกลับเหมือนกับตอนที่พวกเราต่างคนต่างมาคนละทิศคนละทาง
แต่สิ่งที่ได้กลับไปเป็นเชื้อไฟเดียวกัน
ที่จะสร้างพลังของผู้หญิงในเรื่องต่าง
ๆ ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้
เราก็ทำได้
สุกัญญา
คงกะพัน
|