จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2546 |
|
ถึงแม้ว่า "ภิกษุณี" จะไม่ได้รับการยอมรับจากระบบสงฆ์ไทยอย่างเป็นทางการแต่มีผู้หญิงหลายคนที่ฝักใฝ่ในการเข้าถึงพระธรรมไม่ยอมจำนนต่อกฎเกณฑ์ และหาช่องทางการเข้าสู่สมณเพศด้วยตนเอง หากดูจากประวัติศาสตร์ เราได้รู้จัก "สามเณรีสาระ" "สามเณรีจงดี" บุตรีของ นายนรินทร์ กลึง ผู้ที่มีความคิดเป็นขบถต่อระบบสังคมในสมัยรัชกาลที่ 7 มาถึงยุคปัจจุบัน ทุกคนรับทราบข่าวคราวของ "ภิกษุณีฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์" ที่เริ่มต้นด้วยการเป็น "สามเณรีธัมมนันทา" แล้วเดินทางไปอุปสมบทที่ประเทศศรีลังกา เมื่อไม่นานมานี้ ภิกษุณีอีกรูปหนึ่งละเลยไม่เอ่ยถึง-ไม่ได้คือ "ภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์" มารดาของ ภิกษุณีฉัตรสุมาลย์ ซึ่งละสังขารไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยวัย 95 ปี จากอดีต ท่านเริ่มบรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2499 โดยการรับศีลปลงผม และนุ่งห่มสีเหลืองอ่อนที่วัดบวรนิเวศวิหาร จากท่านเจ้าคุณพรหมมุนี (ผิน ธรรมประทีบ) จากนั้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2503 จึงเดินทางไปอินเดียและได้อธิษฐานจิตต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอบวชเป็นภิกษุณี ภายใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ต่อมาในปี 2514 จึงได้เดินทางไปรับการบรรพชาอุปสามบทเป็นภิกษุณีที่ไต้หวัน โดยมีพระคุณท่านศาสตราจารย์เต้าอัน แห่งสำนักวัดเขาซุงซาน เป็นองค์อุปัชฌาย์ พร้อมด้วยพระอาจารย์อีก 9 รูป พระผู้ทำพิธี 2 รูป และพระพี่เลี้ยง 2 รูป ได้รับฉายาว่า "สือ ต้า เต้า ฝ่า ซือ" แปลว่า "พระมหาโพธิธรรมาจารย์ วงศ์ศากยะ" ระหว่างที่ครองสภาพการเป็นนักบวชนั้นได้ทำกิจกรรมสนับสนุนการส่งเสริมพุทธศาสนา และสงเคราะห์ผู้ที่ขาดโอกาสในสังคมมากมาย ที่สำคัญท่านเป็นผู้ก่อตั้ง "วัตรทรงธรรมกัลยาณี" ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ก.ม. 52-53 ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นวัตรที่ท่านก่อสร้างไว้ด้วยทุนส่วนตัวร่วมกับลูกหลานญาติมิตร ภายในบริเวณซึ่งมีเนื้อที่กว่า 6 ไร่ มีตัวอาคารตึกสามชั้นซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนในการปฏิบัติธรรม ..."สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมเป็นธรรมดาขอให้ท่านทั้งหลายอย่าตั้งอยู่บนความประมาท".... ปัจจุบันนี้วัตรทรงธรรมกัลยาณียังคงมีกิจกรรมทางพุทธศาสนาอยู่ โดยมี ภิกษุณีฉัตรสุมาลย์ เป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ โดยได้จัดโครงการอบรมเด็กนักเรียนเรื่องพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้น ม.1 ถึง ม.6 ในวันศุกร์ช่วงเย็น และวันอาทิตย์ช่วงเย็น เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้เรื่องพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น "ก่อนที่ภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์ หรือหลวงย่า จะละสังขารได้ปรารภว่า ดีใจที่ลูกๆ ได้บวชเป็นสามเณรี และภิกษุณีตามลำดับแล้วและยังบอกอีกว่าอยากได้สามเณรีหรือภิกษุณีสัก 100 รูป และยังถามกลับมาว่าแล้วมีสตางค์หรือไม่ เราก็ตอบหลวงย่าไปว่ามีค่ะและสู้ค่ะ" ภิกษุณีฉัตรสุมาลย์ยังได้เล่าถึงธรรมที่หลวงย่าฝากไว้ถึงลูกศิษย์และญาติโยมก่อนละสังขารว่า "สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา ขอให้ท่านทั้งหลายอย่าตั้งอยู่บนความประมาท" |
กลับหน้า ข่าวล่า |
|
วัตรทรงธรรมกัลยาณี
เลขที่ 195 ถนนเพชรเกษม
ต. พระประโทน
อ. เมืองฯ จ. นครปฐม
73000 |